JFF2022slide
สมาคมครูภาษา
และวัฒนธรรมญี่ปุ่นแห่งประเทศไทย

タイ国日本語日本文化教師協会
Japanese Language and Culture Teachers Association of Thailand (JTAT)

รายงานสรุปโครงการอบรมครูระยะสั้นที่ประเทศญี่ปุ่น ครั้งที่ 6 ศูนย์คันไซ

รายงานสรุปโครงการอบรมครูระยะสั้นที่ประเทศญี่ปุ่น ครั้งที่ 6 ปี พ.ศ. 2556
ณ เจแปนฟาวน์เดชั่น ศูนย์คันไซ ประเทศญี่ปุ่น
ระหว่างวันที่ 7-27 เมษายน 2556

ผู้จัด

  1. สมาคมครูภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นแห่งประเทศไทย (JTAT)
  2. ศูนย์ภาษาญี่ปุ่น กรุงเทพฯ (JFBKK)
  3. ศูนย์ภาษาญี่ปุ่นคันไซประเทศญี่ปุ่น (JFKC)

1. จุดประสงค์ของโครงการ

1.1 เพื่อพัฒนาความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นและความเข้าใจเกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นจากประสบการณ์ตรง

1.2 เพื่อให้ได้รวบรวมสื่อการเรียนการสอนภาษาและวัฒนธรรมที่สามารถนาไปใช้กับผู้เรียนของตน

2. จำนวนผู้เข้าอบรม อาจารย์ผู้สอนภาษาญี่ปุ่นระดับมัธยมศึกษา จำนวน 25 คน
                         ผู้ประสานงานชาวไทย จานวน 1 คน (อาจารย์อาภาพร เนาสราญ)

3. ค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ
ผู้เข้าอบรมเสียค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ รวมประมาณคนละ 40,000 บาท
– ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – โอซาก้า (คันไซ) ของสายการบินไทย(TG) ราคา 23,015 บาท
(ราคาพิเศษ สาหรับภาคราชการ จัดซื้อพร้อมกันเป็นกลุ่มในนามสมาคมฯ)
– ค่าเดินทาง ค่ากิจกรรมในประเทศญี่ปุ่น รวมการไปทัศนศึกษาที่เกียวโต ประมาณ 10,000 บาท
(อัตราแลกเปลี่ยน ณ เดือน เมษายน 100 เยน ประมาณ 31 บาท)
– ค่าอาหารวันเสาร์อาทิตย์ และค่าเดินทาง ประมาณ 4,000 บาท
– ค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่า 535 บาท และค่าตรวจสุขภาพ ประมาณ 1,000 บาท
* อนึ่ง ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า โดยความอนุเคราะห์ของเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพ และสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจาประเทศไทย
– JFKC อนุเคราะห์ค่าใช้จ่ายในเรื่องการเรียนการสอนภาษาญี่ปุ่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร (ในวันธรรมดา) ค่าประกันชีวิต และ JFBKK อนุเคราะห์ค่าตั๋วเครื่องบินให้ผู้ประสานงาน
– เมื่อไปถึงญี่ปุ่นผู้ประสานเก็บรวบรวมเงินผู้เข้าอบรมคนละ 40,000 เยน เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรม และการทัศนศึกษาที่เกียวโต เมื่อสิ้นสุดการอบรม ได้คืนเงินแก่ผู้เข้าอบรมคนละประมาณ 10,000 เยน จึงเท่ากับว่ามีค่าใช้จ่ายที่ญี่ปุ่นคนละประมาณ 30,000 เยน หรือประมาณ 10,000 บาท

4. เนื้อหาของกิจกรรมการอบรม
แบ่งผู้เข้าอบรมเป็นจำนวน 6 กลุ่ม โดยให้แต่ละกลุ่มมีผู้ที่มีความสามารถทางภาษา และประสบการณ์การสอนคละเคล้ากันไป (แบ่งกลุ่มโดยปรึกษากับอาจารย์ประจำเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพ) ในชั้นเรียนแบ่งออกเป็นเรียนรวมกันทั้ง 6 กลุ่ม และเมื่อทำกิจกรรมจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย ต่อ 1ห้องเรียน

อาจารย์รับผิดชอบคอร์สอบรมจำนวน 4 ท่าน ได้แก่ อ.มิอุระ ทาคาชิ อ.นากาจิมะ โทรุ อ.อิชิอิ โยโกะ และอ.อาเบะ ยูโกะ โดยอาจารย์ทั้ง 4 ท่านจะหมุนเวียนเปลี่ยนกันรับผิดชอบแต่ละห้องเรียน

กิจกรรมการอบรมที่ศูนย์คันไซแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

4.1 การฝึกใช้ภาษาญี่ปุ่นในชีวิตจริง (日本語と体験) โดยมีการดำเนินกิจกรรมเป็น 4 หัวเรื่อง
1) การสำรวจเมืองโอซาก้า
2) การสำรวจเมืองโกเบ : เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยมุโคกะวะ(武庫川女子大学) พร้อมทำกิจกรรมแลกเปลี่ยน กับนักศึกษา และทัศนศึกษาเรียนรู้เรื่องแผ่นดินไหวที่ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติ (人と防災未来センター)
3) เยี่ยมชมโรงเรียนมัธยมปลายอาซาฮี(大阪府立旭高校) พร้อมทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนกับนักเรียน ในแต่ละกิจกรรมจะมีการเตรียมความพร้อมในห้องเรียนก่อน แล้วจึงปฏิบัติจริงนอกห้องเรียน จากนั้นกลับมารายงานผลหน้าชั้นเรียน ดังแผนภูมิ

ขั้นเตรียมตัว เป็นขั้นตอนการเตรียมตัวฝึกการใช้ภาษาก่อนนำไปปฏิบัติจริงนอกชั้นเรียน เช่น การเรียนรู้Kansai ben การฝึกดูแผนที่ การเปลี่ยนรถไฟ ตารางรถไฟ การฝึกสอบถามทางเป็นภาษาญี่ปุ่น การศึกษาข้อมูลพื้นฐานของสถานที่ที่จะไปเยี่ยมชม การเตรียมข้อมูลพูดคุยกับนักเรียนนักศึกษาตามหัวข้อที่กำหนด เช่น การใช้เวลาในยามว่าง กฎระเบียบของโรงเรียน ชีวิตในโรงเรียน เป็นต้น เตรียมข้อมูลประเทศไทย โรงเรียนในเมืองไทย กิจกรรม เกมส์ ต่างๆ

ขั้นปฏิบัติ ผู้เข้าอบรมได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นในสถานการณ์จริง ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามทาง สอบถามข้อมูลเพื่อกลับมารายงานหน้าชั้นเรียน ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับนักศึกษามหาวิทยาลัย และนักเรียนมัธยมปลาย ในการทำกิจกรรมนอกสถานที่จะมีการแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อสะดวกในการดำเนินกิจกรรม

ขั้นรายงานผล ผู้เข้าอบรมได้นำเสนอผลงานหลังจากที่ได้ไปปฏิบัติจริงตามหัวข้อTask ที่ได้รับมอบหมาย โดยนำเสนอเป็นกลุ่มในรูปแบบ Power Point, Poster, ไฟล์เสียง รูปภาพ และคลิปวีดีโอ โดยมีทั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบ อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ท่านอื่นมาร่วมฟัง และแสดงความคิดเห็นด้วย นอกจากการรายงานผลด้วยการพูดแล้ว ยังมีการรายงานผลด้วยการเขียนรายงาน บรรยายข้อเท็จจริงและความรู้สึกหลังจากที่ได้รับประสบการณ์อีกด้วย ซึ่งทำให้ผู้เข้าอบรมได้พัฒนาภาษาญี่ปุ่นในทักษะทุกด้าน

ในการอบรมสัปดาห์สุดท้าย มีการรายงานผลในหัวข้อ 「日本体験報告会」เป็นการรายงานเกี่ยวกับความประทับใจในการทำกิจกรรมต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นผ่านการอบรมในครั้งนี้ โดยรายงานเป็นกลุ่มย่อย 6 กลุ่มตามที่แบ่งไว้ตั้งแต่ต้น ตามหัวข้ออิสระ ดังนี้ ①「なんばで」②ヤバイ日本 ③関西弁での体験 ④クールジャパン ⑤日本の魅力 ⑥忘れられないこと

4.2 การแนะนำสื่อการเรียนการสอนภาษา (日本語教育リソース)
JFKCแนะนำการใช้ห้องสมุดของศูนย์ รวมถึงตำราและสื่อการสอนภาษาญี่ปุ่นต่างๆ โดยJFKCอนุเคราะห์งบประมาณแก่ผู้เข้าอบรมคนละ 4,000 เยน เพื่อจัดซื้อตำราและสื่อการสอน หากไม่เพียงพอผู้เข้าอบรมสามารถซื้อตำราเพิ่มเติมจากงบประมาณส่วนตัวของแต่ละคน

ผู้เชี่ยวชาญของJFKCแนะนำเวบไซต์การเรียนการสอนภาษาญี่ปุ่นต่างๆ รวมถึง e-learning โดยรวบรวมและทำเป็นลิสต์แจกให้ผู้เข้าอบรมเพื่อนำไปใช้ได้จริงในชั้นเรียนต่อไป

ในการอบรมสัปดาห์สุดท้าย มีการรายงานผลในหัวข้อ 「リソース共有」หรือการรายงานผลการแลกเปลี่ยนแหล่งข้อมูล เป็นผลการรายงานจากการรวบรวมและจัดทำสื่อการสอนในฐานะอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่น เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน แล้วสามารถนำกลับไปใช้สอนได้จริงในชั้นเรียนของตนต่อไป การรายงานนี้แบ่งกลุ่มตามความสนใจของแต่ละคน ไม่จำกัดจำนวนคนและจำนวนกลุ่ม มี 7 หัวข้อดังนี้ ①日本の看板 ②日本で発見した面白いもの ③抹茶について ④犬と散歩のルール ⑤神社とお寺 ⑥日本の機械の使い方 ⑦温泉について

4.3 การสัมผัสสังคมและวัฒนธรรมญี่ปุ่น (文化体験・社会体験)
ระหว่างอบรมที่ศูนย์JFKCมีกิจกรรมด้านวัฒนธรรม 3 อย่างคือ การใส่ชุดกิโมโน(着物の着付け体験) การตีกลองญี่ปุ่น(和太鼓)และฝึกร้องเพลงภาษาญี่ปุ่น ได้แก่ เพลง「桜」(河口(かわぐち)恭(きょう)吾(ご))、 「春が来た」、「ドラえもん」ทุกคนได้ร่วมร้องเพลง「桜」ในพิธีปิดด้วยกัน

ในระหว่างไปทัศนศึกษาที่เกียวโตผู้เข้าอบรมยังได้เรียนรู้และสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นอื่นๆ อีก ได้แก่ การแช่น้ำพุร้อน(温泉) และได้พักโรงแรมแบบญี่ปุ่น การรับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมของเกียวโต การเพ้นท์ผ้ากิโมโนแบบยูเซน(友禅染(ゆうぜんぞめ))การใช้ผ้าห่อของแบบฟุโรชิคิ (風呂敷)การทำขนมญี่ปุ่น(和菓子(わがし))

ประโยชน์ที่ได้รับของผู้เข้าอบรม

1. ผู้เข้าอบรมได้ฝึกการใช้ภาษาญี่ปุ่นในสถานการณ์จริง รวมถึงการรายงานผลเป็นภาษาญี่ปุ่น การเขียนเรียงความเป็นภาษาญี่ปุ่น กล่าวได้ว่าได้พัฒนาทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ตลอดระยะเวลาการอบรม 3 สัปดาห์ จึงมีความมั่นใจในการใช้ภาษามากขึ้น

2. ได้เรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมและสังคมญี่ปุ่นผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งภายในและนอกห้องเรียน ซึ่งจะได้นำไปปรับใช้ในชั้นเรียนภาษาญี่ปุ่นของตนต่อไป

3. สามารถรวบรวมสื่อการสอนภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในชีวิตจริง (生教材)สื่อการสอนที่แต่ละกลุ่มจัดทำขึ้นและนำมาแลกเปลี่ยนกันกลับไปใช้ประโยชน์ที่ชั้นเรียนของตน

ข้อสังเกตจากผู้ประสานงาน

1. ตอนนัดพบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิในขาไป ได้นัดเวลา 20.00 แต่มีผู้เข้าอบรม 3 คนที่มาไม่ตรงเวลา และไม่มีการติดต่อแจ้งมา ผู้ประสานงานโทรศัพท์ติดต่อหลายครั้งกว่าจะติดต่อแต่ละคนได้ เนื่องจากผู้ประสานถือหนังสือเดินทางของทุกคนไว้ (ยกเว้นหนังสือเดินทางราชการ) จึงสามารถทำการเช็คอินเป็นกลุ่มได้ก่อน แล้วผู้เข้าอบรมแต่ละคนนำบอร์ดดิงพาสไปฝากกระเป๋าเดินทางที่เคาเตอร์เอง ผู้ประสานงานจึงให้ทุกคนที่เช็คอินเรียบร้อยแล้ว เข้าไปด้านในก่อน ส่วนผู้ประสานงานรอผู้เข้าอบรมที่ยังไม่มา คนสุดท้ายเดินมาถึงสนามบินประมาณ 21.30

2. ตลอดระยะเวลาการอบรม 3 สัปดาห์ ทางศูนย์ได้จัดกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งกิจกรรมด้านการฝึกใช้ภาษาญี่ปุ่นในสถานการณ์จริง ที่มีการเตรียมความพร้อมให้ผู้เข้าร่วมก่อน แล้วลงมือปฏิบัติ จึงทำให้แต่ละคนมีความกล้าและมั่นใจมากขึ้นที่จะใช้ภาษา กิจกรรมด้านภาษาได้พัฒนาทุกทักษะ จากการสังเกตของผู้ประสานงานพบว่าการพูดรายงานผลหน้าชั้นเรียนทุกคนกลุ่มเตรียมตัวได้ค่อนข้างเร็ว และพูดได้อย่างคล่องแคล่ว ตรงข้ามกับกิจกรรมการเขียนรายงาน ที่ค่อนข้างใช้เวลา แสดงให้เห็นว่าทักษะด้านการเขียนยังต้องพัฒนาอีก นอกจากนี้ผู้เข้าอบรมยังได้เรียนรู้และสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วย สังเกตได้ว่าผู้เข้าอบรมมีความพึงพอใจในแต่ละกิจกรรมพอสมควร

3. กิจกรรมแลกเปลี่ยนกับนักศึกษามหาวิทยาลัยมีเวลาน้อยเกินไป(20นาที) ผู้เข้าร่วมบางคนต้องการพูดคุยแลกเปลี่ยนมากกว่านี้เนื่องจากนักศึกษาอยู่ในวัยที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจึงมีหัวข้อสนทนามาก กลุ่มในการทำกิจกรรมแบ่งจำนวน4-5 คนต่อกลุ่ม ซึ่งมีจำนวนเท่าๆ กับคณะผู้เข้าอบรมของJTAT ในขณะที่กิจกรรมแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนมัธยมปลายได้พูดคุยกับนักเรียนถึงสองรอบ รอบละ20นาที จำนวนนักเรียนมัธยมในแต่ละรอบมีถึง 80 คน จึงต้องแบ่งผู้เข้าร่วมเป็นกลุ่มย่อย เพียงกลุ่มละ 2-3 คน ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ที่ทางมหาวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยมให้ความสนใจในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับครูสอนภาษาญี่ปุ่นชาวไทยมากถึงเพียงนี้

4. กิจกรรมเก็บสตรอเบอร์รี่ก่อนเดินทางไปทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนมัธยม เจ้าของสวนเข้าใจผิดเรื่องเวลา ทำให้เกิดการล่าช้าในการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆของสวน เนื่องจากต้องไปถึงโรงเรียนมัธยมให้ทันตามเวลา จึงทำให้การเก็บสตรอเบอร์รี่เหลือเวลาเพียง 30 นาที จากที่กำหนดไว้ 45 นาที จึงทำให้ทุกคนต้องเร่งรีบมากเกินไป

5. กิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานที่ทุกที่ จะมีเจ้าหน้าที่ของศูนย์JFKC คือคุณคุเร ประสานงานต่างๆ และร่วมเดินทางไปด้วย ทำให้การจัดการทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ผู้เข้าอบรมโดยส่วนใหญ่รักษาเวลา จึงไม่ค่อยมีปัญหาด้านการนัดพบเท่าใด เพียงแต่ผู้เข้าอบรมจะชื่นชอบการถ่ายรูปกันมาก ทำให้การเคลื่อนย้ายไปทัศนศึกษาในแต่ละจุดใช้เวลานานพอสมควร

6. ศูนย์จัดทำ share folder ชื่อ students > JTAT2013 ไว้สำหรับแชร์รูปภาพที่ทางศูนย์ถ่ายไว้ รวมถึง Power Point และ Poster งานกลุ่มที่ผู้เข้าอบรมจัดทำขึ้น ทั้งนี้ผู้ประสานงานได้สำเนาภาพถ่าย และสื่อการสอนเหล่านั้นกลับมาและเก็บไว้ใน share folder ของศูนย์JFBKK

7. ก่อนเดินทางไปอบรมได้มีการตั้งกลุ่มJTAT Kansai 2013 ในเฟซบุคเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ ระหว่างผู้เข้าอบรมด้วยกัน ระหว่างการอบรมที่ศูนย์ก็ได้มีการใช้เฟซบุคในการติดต่อ การแชร์รูปภาพและข้อมูลต่างๆ จึงทำให้การติดต่อต่างๆ เป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้หลังจากกลับมาแล้วก็ยังใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้เข้าอบรมต่อไป อนึ่ง ผู้เข้าอบรมบางท่านไม่ได้ใช้เฟซบุค จึงยังมีการติดต่อทางอีเมลควบคู่กันไปด้วย

ภาคผนวก
1. รายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการอบรม ครั้งที่ 6 ณ ศูนย์คันไซ ประจำปี พ.ศ. 2556
2. ตารางกำหนดการโดยละเอียด
3. ประมวลภาพกิจกรรมของศูนย์คันไซ

     อนึ่ง แบบสอบถามหลังการอบรม และรายงานแสดงรายจ่ายนั้น ทางศูนย์คันไซกำลังดำเนินการจัดทำอยู่ และจะส่งเป็นรายงานมาถึง JTAT ในประมาณเดือนมิถุนายน

รายชื่อผู้เข้าอบรม ณ ศูนย์คันไซ 7-27 เม.ย. 2556
JTAT Kansai 2013

No.ชื่อ-สกุลสถาบันหมายเหตุ
น.ส.ทัดชา อินทร์เนื่องโรงเรียนวิสุทธรังษี  
นาย เพรียวพันธุ์ คนซื่อโรงเรียนสัตหีบวิทยาคม Shinki 16
นาย ธงชัย โพธิ์ทองโรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (ทวีวัฒนา) ในพระราชูปถัมภ์ Shinki 16
น.ส.ณิชาภา ชนะชัยรุ่งกมลโรงเรียนศรียานุสรณ์ Shinki 16
น.ส.ลินดา มะเย็งโรงเรียนสุไหงโก-ลก Shinki 16
น.ส.นฤมล สุทนต์โรงเรียนสามโก้วิทยาคม Shinki 16
น.ส.นัทธมล อำลาโรงเรียนวัดพุทธบูชาShinki 16
น.ส.ศศิธร ลิ่มพิทักษ์โรงเรียนแก่งคอย Shinki 16
นาย อุดมศักดิ์ ภาบุตรโรงเรียนบ้านม่วงพิทยาคม Shinki 16
10 น.ส.วริฐา งาคชสารโรงเรียนเสิงสาง Shinki 16
11 น.ส.ศิริเพ็ญ ศรีลาศักดิ์โรงเรียนอุ่มเหม้าประชาสรรค์ Shinki 16
12 นาง ชญานิษฐ์ เนืองทองโรงเรียนมุกดาวิทยานุกูล 
13 นาย สุจิน นามสทอนโรงเรียนมุกดาวิทยานุกูล 
14 นาง รุ่งศิริ ทิพย์อักษรโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม 
15 น.ส.มลฤดี สีบัวบุญโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม 
16 น.ส.ชุติมา นากาจิมาโรงเรียนสตรีนนทบุรี 
17 นาง พจนี ศิริอักษรสาสน์มหาวิทยาลัยรามคำแหง 
18 น.ส.ดวงเนตร ดำริห์โรงเรียนทุ่งเทิงยิ่งวัฒนา 
19 นาง สุรณี ติดมาโรงเรียนศรีวิไลวิทยา 
20 น.ส.สุธาทิพย์ ฟองสมบูรณ์โรงเรียนสตรีอ่างทอง 
21 น.ส.ชนัญญ์ธร รุ่งธัญนิธิธรณ์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 
22 นาง วิภาวรรณ คูณลาภโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ 
23 น.ส.ธีรา พงศ์ศาสตร์โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี 
24 น.ส.ณัฐรดา กระจ่างฐิตินันท์โรงเรียนราชาธิวาส  
25 นาง เพ็ญจิตต์ สุวรรณศรีโรงเรียนราชินีบูรณะ  
26 น.ส.อาภาพร เนาสราญThe Japan Foundation  ผู้ประสานงาน

ประมวลภาพกิจกรรมของศูนย์คันไซ